หลังจากที่ปีที่แล้วทาง Ferrari ได้สร้างความฮืออาและตื่นเต้นเป็นเสียวสยิวให้กับคนที่ชื่นชอบรถสปอร์ตด้วยการปล่อย F430 – Ferrari เครื่อง V8 ที่จะมาแทน F360 Modena ที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามและได้สร้างปรากฎการณ์ความตื่นตะลึงให้กับวงการรถ supercar ด้วยการเป็นรถที่มียอดจองยาวและต้องรอคิวนานที่สุดในโลก ซึ่งบางประเทศต้องใช้เวลารอนานถึง 2 ปีจนได้ชื่อว่าเป็น “The world’s longest waiting list”
เป็นที่รู้กันว่าเมื่อตัว coupe ออกมา มันเป็นธรรมเนียมที่จะต้องมีตัวเปิดประทุน หรือที่เราเรียกกันว่า “Spider” ออกมาให้ยลโฉมกันในเวลาต่อมา และแน่นอนว่าทาง Ferrari ก็ได้สร้างความตื่นตะลึงให้กับวงการรถ supercar อีกครั้ง โดยได้เลื่อนกำหนดการเปิดตัวของ F430 Spider จากเดิมที่มีกำหนดเปิดตัวในช่วงกลางปี 2005 มาเป็นไตรมาสแรกของปี 2005 แทน ซึ่งทำให้ตอนนี้ F430 Spider มีกำหนดการจะเปิดตัวสู่สายตาประชาชนในงาน Geneva Motor Show กลางเดือนมีนาคมนี้ และนี่คือรายละเอียดและภาพใหม่ล่าสุดของ F430 ที่เรานำมาให้ชาว Motortoday ได้ชมกันครับ
หน้าตาภายนอกนั้นเหมือนกับ F430 แถบทุกประการเพียงแต่ว่าไม่มีหลังคาเท่านั้นเอง ซึ่งไอ้ความไม่มีหลังคานี่แหละที่ทำให้ผมมีความรู้สึกว่าด้านท้ายของ F430 Spider มันดูเตี้ยแบน และกางมากขึ้น... ทางด้านหน้านั้นถอดแบบมาจาก F430 ทุกประการ มีรูขนาดใหญ่บนกันชนหน้าสองรูที่มีหน้าที่ดักลมเข้าไปเป่าระบายความร้อนตามส่วนต่างๆของรถ ไม่ว่าจะเป็น radiator หรือ caliper เบรก (ซึ่งทางทีมออกแบบของ Ferrari ได้แรงบันดาลใจมาจากรถแข่งรุ่นเก่ารหัส F156 F1 ที่ Phill Hill ขับในปี 1961) เมื่อลมถูกดักเข้าไประบายความร้อนตามระบบต่างๆ อากาศร้อนที่ออกมาจะถูกรีดออกทางรูที่อยู่ด้านข้างของกันชน (ที่ดูเหมือนเหงือกฉลาม โดยเหงือกนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าของ F360 และสามารถถ่ายเทความร้อนได้ดีกว่า) เพื่อไม่ให้อากาศร้อนเข้าไปลดประสิทธิภาพการทำงานของเบรก และอากาศเย็นๆอีกส่วนจะถูกดักไปเป่า caliper โดยเฉพาะ นอกจากนี้ล้อ mag ขนาด 19 นิ้วลายใหม่ของ F430 ก็ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ เพื่อให้สามารถระบายความร้อนของ brake ได้ดีขึ้นอีกด้วย
กระจกมองข้างที่ถูกออกแบบให้เป็นขาสองขามีช่องอยู่ตรงกลางนั้น ถูกออกแบบให้ช่วยลดแรงต้าน แต่ใน F430 Spider มันมีประโยชน์มากกว่าแค่ลดแรงต้าน เพราะมันจะยังทำหน้าที่บังคับกระแสลมให้เป็นระเบียบเข้าไปสู่ช่องดักลมตรงเหนือซุ้มล้อ ให้อากาศเข้ามาสู่เครื่องมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ อีกทั้งไอ้ช่องดักลมตรงเหนือซุ้มล้อจะมีขนาดใหญ่กว่าใน F360 Spider และสามารถดักลมเย็นเข้าเครื่องได้มากกว่า F360 Spider ซึ่งทำให้เครื่องยนต์ของ F430 มี performance ดีขึ้นอีกด้วย… skirt กันชนหน้าใต้ช่องดักลมที่ต่ำลง ปลายท้ายรถที่กระดกสูงขึ้นกว่า F360 รวมไปถึง diffuser ทางด้านหลังใต้ท้องรถที่ออกแบบใหม่ ทำให้ F430 Spider มี aerodynamics ที่ดีไม่แพ้ F430 Coupe โดยทาง Ferrari เคลมว่าการออกแบบ aerodynamic ของ F430 Spider นั้นใช้ technology ในการออกแบบเช่นเดียวกับที่ใช้กันในรถ F1
ไฟหน้าของ F430 Spider เป็นระบบ Bi-Xenon เวลาเปิดไฟจะมีแถบ LED เล็กๆ เรียงเป็นแถวอยู่ทางด้านข้างของกรอบไฟ เช่นเดียวกับ F430 Coupe ซึ่งจะช่วยเพิ่มความโดดเด่นเป็นสง่าตอนขับไปเที่ยวผับได้เป็นอย่างดี
หลังคานั้นยังเป็นแบบ soft-top เหมือน F360 Spider ไม่ได้เป็น glass roof แบบใน 575 Super America อย่างที่เป็นข่าวกันในตอนแรก... หลังคาควบคุมการทำงานด้วยไฟฟ้า สามารถเก็บได้อย่างมิดชิดภายใต้พื้นที่หลังเบาะแคบๆเช่นเดียวกับ F360 Spider ซึ่งสิ่งที่ผมยังไม่เข้าใจก็คือ ทำไมกระจกหลังมันยังไม่ใช่กระจก แต่เป็นแค่พลาสติกใสๆที่ดูไม่สมราคาเอาซะเลย
เครื่องยนต์นั้นยกมาจาก F430 Coupe ทั้งดุ้น ซึ่งเป็นเครื่อง V8 ที่ทาง Ferrari ไม่ได้พัฒนาขึ้นมาใหม่ทั้งหมด แต่เอาเครื่องของ Maserati Coupe มาใช้แทนแล้วปรับปรุงใหม่ทั้งหมด โดยการเปลี่ยนลูกสูบ ก้านสูบ และ crankshaft ใหม่ นอกจากนี้ยังปรับปรุง intake manifold ใหม่ ลิ้นปีกผีเสื้อแบบสูบใครสูบมัน ทำให้สามารถดูดอากาศเข้าเครื่องได้มากขึ้น เปลี่ยนระบบหล่อลื่นเป็นแบบ dry-sump พร้อมทั้งปรับปรุงขนาด clutch แบบ twin-plate รวมถึง flywheel ให้มีขนาดเล็กลง ทำให้สามารถลดความสูงของเครื่องระหว่างใต้ oil sump กับ crankshaft ได้มากกว่า F360 อีก 15 mm
เครื่องตัวนี้เป็นแบบ 4 valve ต่อสูบ มี quad camshaft โดยแบ่งเป็นฝั่งละคู่ พร้อมกับระบบ valve แปรผัน มีกำลังอัดในกระบอกสูบ 11.3:1 ควบคุมด้วยกล่อง ECU ของ Bosche เจ้าเก่ารุ่น Motronic ME7 สองใบ มาพร้อมกับ Twins Motorised Throttles, Single Coils และ Active Anti Knocking Controls (ระบบป้องกันการน๊อกตลอดรอบเครื่องยนต์) ขนาดความจุ 4308 cc. (มากกว่า F360 Spider 20%) ได้แรงม้าทั้งหมด 490 bhp @ 8500 rpm (เพิ่มขึ้น 23%) แรงบิดสูงสุด 465 @ 5250 rpm มากกว่าเดิม 25% โดยแรงบิดกว่า 80% มีให้ใช้ตั้งแต่ 3500 rpm. ทำให้ F430 Spider มี 114 แรงม้าต่อลิตรและมี อัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนักที่ 2.9 kg ต่อม้าหนึ่งตัว
แรงม้าทั้งหมดจะถูกส่งผ่านเกียร์แบบ 6 speed ที่มีทั้งแบบ manual และ F1 ให้เลือก ทำงานร่วมกับ Electronics Differential (E-Diff) ซึ่งไอ้เจ้าระบบนี้จะทำหน้าที่วัดแล้วก็วิเคราะห์แรงบิดที่อยู่ที่ล้อขับเคลื่อนแต่ละข้างรวมถึงสภาพของพื้นถนน เพื่อที่จะทำให้รถเกาะถนนมากที่สุด (Maximum Grip) โดยจะเลือกปริมาณแรงบิดที่เหมาะสมที่สุดสำหรับสภาพรถขณะนั้นๆ... เกียร์ลูกนี้ทำมาจาก aluminium และประกอบด้วย Multi-Cone Synchronizers ทำงานร่วมกับเฟืองท้ายแบบใหม่ (Bevel Type) เพื่อให้สามารถถ่ายทอดแรงม้าและแรงบิดได้สมบูรณ์มากที่สุด
อัตราทด 5 เกียร์แรกของ F430 Spider จะเหมือนกับ F360 Spider ส่วนเกียร์ 6 อัตราทดจะยาวกว่า แต่เฟืองท้ายของ F430 Spider จะสั้นกว่า ดังนั้นโดยรวมทำให้เกียร์ของ F430 Spider ยาวกว่าและวิ่ง top speed ได้มากกว่า F360 Spider ซึ่งเกียร์ F1 ของ F430 Spider นั้นมีคุณสมบัติยอดเยี่ยมเหมือนใน F430 Coupe คือจะใช้เวลาเปลี่ยนเกียร์ทั้งหมดเพียง 150 millisecond (รวมเวลาตั้งแต่ computer สั่งกด clutch เปลี่ยนเกียร์ จนกระทั่งปล่อย clutch ) นอกจากนี้การเข้าเกียร์ถอยยังใช้การกดปุ่มที่กินเวลาน้อยกว่า F360 Spider ถึง 50% กดแล้วไม่ต้องนั่งรอให้เสียอารมณ์ อีกทั้งคุณยังสามารถเปลี่ยนจากเกียร์ถอยมาสู่เกียร์หนึ่งได้เลยโดยไม่ต้องผ่านเกียร์ว่างเหมือนกับรุ่นก่อน
เมื่อระบบ Lunch Control ของ F430 ทำงานร่วมกับยางของ Bridgestone Re050A ขนาด 225/35 ทางด้านหน้ากับ 285/35 ทางด้านหลัง (มียางแบบ Run-Flat Tire ของ Goodyear ให้เลือกเสียตังค์เพิ่ม) ทำให้ F430 Spider สามารถทำความเร็ว 0-100 ได้ในเวลา 4.1 วินาที ช้ากว่า F430 Coupe เพียงแค่ 0.1 วินาที และมี top speed ที่ 309 km/h ซึ่งน้อยกว่า F430 Coupe ที่ทำได้ 315 km/h อยู่ 6 km/h แต่แค่นี้ก็เร็วขน(หัว)หลุดแล้ว
ช่วงล่างยกมาจาก F430 Coupe เช่นกันเป็นแบบ double unequal-length wishbone พร้อม anti-drive และ anti-squat geometries ซึ่งทำจาก aluminium forged เพื่อความเบา (สามารถลดค่า Unsprung Weight ลงได้มากกว่า F360) มีระบบ electronics คอยควบคุมที่เรียกว่า Skyhook ทำให้ F430 Spider เป็นรถเปิดประทุนรุ่นแรกของ Ferrari ที่ใช้ช่วงล่างแบบ Active Suspension... ระบบเบรกนั้นมี Carbon Ceramic Brake พร้อมกับ Caliper แบบ 6 Pots ให้เลือกเสียตังค์เป็น Option เช่นเดียวกับ F430
ภายใน F430 Spider นั้นยกมาจาก F430 Coupe ทั้งดุ้น (จะแตกต่างก็ตรงที่ F430 Spider มีปุ่มควบคุมการเปิดปิดหลังคา) ภายในของ F430 Spider นั้นไม่มีแอร์ digital ไม่มีเครื่องเสียงที่มีปุ่มยุบยับ พวงมาลัยทรงสามก้านเหมือนกับที่อยู่ใน F430 Coupe เด๊ะๆ แตรอยู่ตรงตำแหน่งวางนิ้วเหมือนกับใน CS แล้วก็ Enzo ซึ่งไม่ว่ายังไงเวลาซิ่งๆหรือรีบๆมันต้องไปกดโดนทุกที นอกนั้นบนพวงมาลัยก็ประกอบไปด้วยปุ่ม start กับสวิทช์ควบคุม mode ต่างๆของรถ ที่ทาง Ferrari เรียกว่า Manettino มีหน้าที่ควบคุม E-Diff, Gear F1, Suspension, CST, ASR, EBD และ ABS
ใน F430 Spider คุณก็ยังสามารถตบแต่งแบบตามใจฉันได้เหมือนเดิม (Carrozeria Scaglietti) ตามเอกสารที่ผมมีนั้น F430 Spider สามารถเลือกได้ว่าจะเอารถสีอะไร (มีให้เลือกทั้งหมด 16 สี รวมถึงสีใหม่ “Grigio Silverstone” สำหรับ F430 Spider โดยเฉพาะเหมือนที่อยู่ในรูป) เลือกสีหนังภายในได้ทั้งหมด 12 สี แล้วก็สีพรมอีก 8 สี การตกแต่งภายในสามารถเลือกได้ว่าจะใช้ carbon-fiber หรือว่า aluminium นอกจากนี้ยังสามารถเลือกสีวัดรอบได้ว่าจะเอาพื้นเป็นสีเหลืองหรือสีแดง… การตกแต่งแบบตามใจฉันยังคงแบ่งเป็น 4 zone เหมือนเดิมคือ Racing & Track, Exterior & Colour, Interior & Material และสุดท้ายก็คือ Equipment & Travel ซึ่งมีให้เลือกมากมายรวมไปถึง Bluetooth ที่ราคาแถวๆแสน แพงบ้าเลือดได้อารมณ์มาก
สุดท้าย เรื่องราคานั้ยังแบะๆๆ แต่ถ้าให้เดาเล่นสั่วๆ ราคาในบ้านเราน่าจะอยู่แถวๆ 23 ล้าน จนถึง 24 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับค่าเงินและ option เอาเป็นว่าเดี๋ยวถ้ามีรายละเอียดเพิ่มเติมหรือภาพตัวเป็นๆจะรีบเอามาให้ชมกันแน่นอนครับ ส่วนเรื่องอารมณ์ในการขับขี่ และ performance เมื่อเทียบกับ F360 Spider จะเป็นอย่างไรนั้น ถ้ามีโอกาสเดี๋ยวจะเก็บเอามาเล่าให้ฟัง รับรองว่าอีกไม่นานคงมี First Impression ออกมาให้ได้อ่านกันที่นี่ที่เดียวสำหรับชาว Motortoday โดยเฉพาะครับ